นักปั้นชื่อดัง แรงนะยะ

[เจ๊แฉ]

ทุกอาชีพไม่มีข้อยกเว้น ... หากต้องการให้คนนับถือ ต้องมี “จรรยาบรรณ”

ที่พูดถึงมากที่สุดคือ “นักข่าว” ที่ทำงานด้านสื่อสารมวลชนอาชีพนี้ยิ่งต้องเคร่งครัด เพราะพวกเราต้องแบกรับศักดิ์ ฐานะ “ฐานันดรสี่” ที่ผู้คนยอกย่อง
หรืออย่างอาชีพทนายความ หรือว่า หมอ เราก็เคยได้ยินพูดถึงบ่อย

จนตลอดจนอาชีพต่ำเตี้ยอย่าง “ขอทาน” อาศัยเดินร้องเพลงเป็นวณิพกพเนจร ถือกระป๋องขอเงินจากผู้ใจบุญสุนทาน ยังน่าสงสารว่าพวกท่านแกล้งง่อยเปลี้ยเสียขา ไร้จรรยบรรณ


สำหรับคนในวงการบันเทิงมีอาชีพหนึ่ง ซึ่ง “เจ๊เขียว” อยากถามถึง “จรรยาบรรณ” ที่นับวันจะเหลืออยู่น้อย
นั่นคืออาชีพ “นักปั้นดารา” หรือ “แมวมอง” หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่

ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนามาแตกหน่อออกมาเป็นอาชีพ “ผู้จัดการส่วนตัว”

ในวงการบันเทิงผู้ปรพกอบอาชีพทำนองนี้ มีอยู่มากมาย บางรายก็ดี แต่ก็มีหลายราย “ไร้จรรยาบรรณ” จนถูกประณามว่า
“ทำนาบนหลังคน”

หรือดูถูกว่าเป็นพวก “เหลือบ” !!

ช่วง ไม่กี่เดือนมานี้มีหลายเรื่องที่เห็น “นักปั้น” หรือ “ผู้จัดการส่วนตัว” ตกเป็นข่าวว่าออกมาฟ้องร้องกันเอง เพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ในตัวดารา
อีกทั้งยังมีกลเม็ดกลโกงอีกมากมายหลายเรื่อง เพื่อดันดาราที่ตัวเองดูแลอยู่ตกเป็นข่าว



วันนี้ “เจ๊เขียว” ขอพูดถึงคนๆหนึ่ง ซึ่งในอาชีพนี้จัดอยู่ในแถวหน้าๆของวงการบันเทิงทีเดียว

คนๆนี้ ทำตัวเป็น “แมวมอง” เที่ยวเดินหาเด็กตามสยามฯ ตามห้างสรรพสินค้า เหมือนกับวิธีของ “แมวมอง” รุ่นดึกดำบรรพ์
เจอเด็กหน้าตาดี ก็พูดกล่อมว่า ตัวเองมีพาวเวอร์ดันให้เป็นดาราดังได้ เพราะรู้จักกับค่ายหนัง ค่ายละคร และผู้ใหญ่ในสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง
โดยเด็กซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่นักปั้นคนนี้หมายตาก็จะเป็นเด็กแก่แดด แรดดง ที่มีความกระเหี้ยนกระหายอยากได้เงินทั้งนั้น
เพราะเด็กพวกนี้ไม่มีอำนาจต่อรอง ขอแค่ได้เป็นดารา หาเงินมาผลาญ มีให้เที่ยว ก็พอใจแล้ว

ก็เพราะเหตุนี้นี่แหละ ระยะหลังๆ วงการบันเทิงจึงมีแต่ “ดาราสมองกลวง” ไร้คุณภาพ!!

ซึ่งเป็นปัญหาบ่อนทำลายวงการบันเทิงอย่างแสนสาหัสในระยะยาวต่อไป

ตอนเค้าให้เซ็นสัญญาก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร เค้าบอกให้เซ็นชื่อก็เซ็น เพราะกลัวเดี๋ยวไม่ได้เป็นดารา

ไอ้พวกสมองกลวงเหล่าเนี้ย เมื่อจับผลัดจับผลูได้เป็นดาราเมือ่ไหร่ถึงรู้สึก !!

ไอ้จำนวนร้อยที่จับเซ็นสัญญา มีอยู่เพียงแค่ไม่ถึง 5 คนเท่านั้น ที่ไต่เต้าขึ้นไปแจ้งเกิดได้

นอกนั้นก็ถูกคัดทิ้ง กลิ้งเกลือกอยู่กับดินเหมือนเดิม

รู้ได้เลยว่าคนไหนมั่งที่เป็นดาราในสังกัด “นักปั้นเหลือบ” คนนี้ เพราะดาราแต่ละคนนั้น

ล้วนแต่ “ดังในทางเน่า” ทั้งนั้น

ที่เด่นๆเห็นอยู่ 3 คน คนแรกเป็นพระเอกหุ่นยนต์ที่พูดเป็นแต่คำว่า “คร๊าบบบบ”

พูดถึงนิสัยพื้นฐานของพระเอกยอมรับว่าดี เพียงแต่ซวยที่ตกอยู่ในมือคนเลว !

โชคดีของเด็กที่เล่นหนังเรื่องเดียวแล้วดังโคตร แต่กอบโกยยังไม่ทันรวย ความซวยก็มาเยีนยน้องพระเอกคนนี้ซะแล้ว
เพราะไอ้ “นักปั้นสองเพศ” คนนี้แหละตัวแสบ!

คือน้องพระเอกกำลังดังเลยมีงานรุมเพียบ “นักปั้นเหลือบ” ก็ตามติดแจ เพราะอาศัย “เกาะดัง” มีหนังหน้าได้ลงหนังสือพิมพ์ไปด้วย
ที่สำคัญวางกฏกับผู้จ้างทุกรายเอาไว้ว่า คนรับตังค์ต้องเป็นตัวเองเท่านั้น

น้องพระเอกไม่มีสิทธิ์รู้ว่า แต่ละงานเค้าให้เงินจ้างเท่าไหร่ จะรู้แค่ส่วนแบ่งที่เค้ายื่นให้เท่านั้น ดังนั้นถูกขี้โกงอย่างไรไม่เคยตรัสรู้ได้
แต่ เรื่องนั้นยังไม่ทำให้น้องพระเอกซวยเท่ากับว่า “เหลือบ” ตัวนี้ ตามเด็กตัวเองไปที่ไหน ต้องมีคดีข้าวของดาราหรือแม้กระทั่งทีมงานหายทุกทีสิน่า
แรกๆ ทุกคนก็สงสัยว่าเป็นฝีมือของน้องพระเอกหน้าอ่อนหรือเปล่า เพราะคดีของหายเห็นตามไปทุกที่

จนสุดท้ายมีอยู่ทีนึงคนจับได้คาหนังคาเขาว่า “เหลือบ” ตัวนี้เองที่ขโมยกระเป๋าของคนอื่นไป

แล้วมาแก้ตัวหน้าด้านๆ ว่า “หยิบผิด”

ยิ่งความเอาแต่ได้ของ “นักปั้นเหลือบ” คนนี้ขึ้นชื่อมาก

อย่างมีอยู่วัน น้องพระเอกดังไปออกรายการรายการหนึ่งที่สตูดิโอช่องโมเดิร์นไนน์ อสมท

เจ้าของรายการเห็นแล้วอนาถใจ เพราะน้องพระเอกต้องนั่งรถแท็กซี่มาเอง คนเดียว (ยังดีไม่นั่งรถเมล์) ด้วยเงินของตัวเอง
แถมเสื้อผ้าก็ทั้งเสื้อยืด กางเกงยีนส์ ไม่มีการเตรียมชุดหล่อมาให้เปลี่ยน โดยโยนภาระให้ทางรายการจัดการ
ที่ทุเรศที่สุดก็คือหลังจากถ่ายเสร็จแล้ว “เหลือบ” ตัวนั้นถึงได้โผล่หัวมา เพื่อขอแบ่งส่วนบุญ !

พอได้เงินตัวเองก็กลับไป ปล่อยให้พระเอกต้องนั่งแท็กซี่กลับเอง

ยังมีนางเอกอีกคนที่อยู่ในสังกัดนี้ ซึ่งแจ้งเกิดไม่ทันไรก็มีข่าวฉาวตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินเหล้าเมายา ดูดบุหรี่
และที่แย่กว่านั้นคือ “แรด” ตั้งแต่ตอนเรียน

โดยมีคนแฉพฤติกรรมว่า “มั่วผู้ชาย” หลายคน

นอกจากนี้ก็มีนางเอกอีกรายก็คล้ายๆกัน ยังไม่ทันดังก็โดน “คลิปฉาว” สกัดดาวรุ่ง

และที่เลวกว่านั้นก็คือ เป็นฝีมือของ “นักปั้นเหลือบ” นั่นเอง!

เหตุผลก็เพียงเพื่อจะโปรโมตละครที่น้องนางเอกกำลังออกมา

ถือเป็น “วิธีการ” ที่ต่ำช้าเลวทรามมากๆ

โอ๊ย...ถ้าเจ๊เป็นพระเอกนางเอกใน “อุ้งมือมาร” ยังงี้น่ะเหรอ “บ๊ายบาย” ไปแล้วล่ะค่ะ

ถ้าจะฟ้องก็ฟ้องสิ !

อย่างมากก็แค่ “เอาเงินฟาดหัว” ไป...จบ!


เครดิด
www.zubzip.com

[PiimZz-TKllxa]

- -*

[l0verXinG_Tkllxa]

ยาวเกิ๊น นน !!

ม่าพ้อมที่จะอ่าน

55+

[PiimZz-TKllxa]

5 55 +

[l0verXinG_Tkllxa]

พิมอ่านดิ๊

เล่าเค้าฟังมั่ง ๆ

[*:PoyFai<<]

ไม่มีคำบรรยาย

เยอะแต้

เยอะว่า

-*-

[PiimZz-TKllxa]

ขี้เกียจอ่าน -*-

[Aam-Tkllxa]

ขี้คร้านนน อ่านเว้ยย

ยาวมาก

[PiimZz-TKllxa]

too*

[Aam-Tkllxa]

รู้ละใคร

บ่ากระเทย อุ๊บ วิริยะ